วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2562

NC คำสาปรักฟาโรห์ ตอนที่ 9 Markbam






            ร่างบางถูกเล้าโลมด้วยมือและปากจากอีกฝ่าย ริมฝีปากอิ่มถูกครอบครองด้วยริมฝีปากอุ่นร้อนอีกครา อกบางก็ได้รับความเอ็นดูอยู่ไม่น้อย ถูกฝ่ามือใหญ่กอบกุมเคล้าคลึงอย่างทะนุถนอมจนเรียกเสียงครวญครางด้วยความเสียวซ่านแผ่วเบา
            “ครั้งแรกที่ต้องเสียพรหมจรรย์ เจ้ารู้ใช่ไหมว่ามันต้องเจ็บ”
            เมเนสกระซิบเสียงแหบพร่า เมื่อได้แตะต้องเรือนร่างขาวเนียนก็ทำให้ร่างกายร้อนรุ่ม
พระองค์รู้ดีว่าคนที่อยู่ใต้ร่างตอนนี้ต้องผ่านความเจ็บปวดในครั้งแรกเพียงใด แต่พระองค์ก็ตั้งพระทัยว่าจะพยายามอ่อนโยนกับแบมแบมให้มากที่สุด แต่ไม่รู้จะทำตามที่ตั้งพระทัยได้นานสักแค่ไหนถ้าแบมแบมเกิดยั่วยวนพระองค์ขึ้นมา
“เจ็บมากไหมพ่ะย่ะค่ะ”
น้ำเสียงออดอ้อนยิ่งทำให้ฟาโรห์แทบอดทนไม่ไหว แต่ก็ต้องตั้งสติไม่บุ่มบ่ามทำอะไรรุนแรงลงไปเพราะไม่อยากได้ชื่อว่าข่มเหงแบมแบม
แบมแบมมองพระพักตร์งดงามที่กำลังอดทนของคนตรงหน้า ร่างกายแข็งแรงทาบทับเขาอยู่
“พระองค์เป็นอะไร”
“ข้ากำลังหักห้ามใจไม่ให้ทำอะไรรุนแรงอยู่”
ฟาโรห์กัดพระทนต์แน่น ความอดทนของพระองค์ใกล้ถึงขีดจำกัด
….” แบมแบมไม่คิดว่าฟาโรห์จะใส่พระทัยกับคำพูดเมื่อวานของเขาขนาดนี้
เขาไม่อยากให้พระองค์บังคับข่มเหงน้ำใจกัน พระองค์ยังจำได้
ในเมื่อฝ่าบาทใส่พระทัยในความต้องการของเขา เขาก็ควรจะทำตามที่ตกลงกับพระองค์ไว้
“ทำตามที่ทรงต้องการเถอะพ่ะย่ะค่ะ” แบมแบมกระซิบแผ่วเบาอย่างเขินอาย  ซุกหน้ากับพระอุระกว้าง
ท่าทางของแบมแบมทำให้องค์ฟาโรห์แย้มสรวลน้อยๆ แววพระเนตรอ่อนโยนฉายชัด ทอดพระเนตรไปยังใบหน้าหวานของอีกคน
“ข้าบอกแล้วว่าจะถนอมเจ้า”
“อื้อ”
เมเนสกระซิบก่อนจะมอบจูบที่ทำให้แบมแบมร้องครางออกมาเมื่อมันดูดดื่มหวานล้ำลึกเสียจนพัดพาความคิดทุกอย่างไปจากเขาเสียหมด
ร่างสูงค่อยๆ ลิ้มชิมซอกคอขาวผ่อง ทิ้งร่องรอยตีตราเอาไว้อย่างชัดเจน แบมแบมร้องออกมาเบาๆ เมื่อถูกฟันคมและเขี้ยวเล็กๆ ของอีกคนเน้นย้ำรอย
อกบางถูกเค้นคลึงหนักมือขึ้น แล้วลากไล้ไล่ไปตามเอวบาง ก่อนไปหยุดที่สะโพก แบมแบมสะดุ้งเมื่อนิ้วของอีกฝ่ายกดทาบตรงปากทางคับแคบ
ร่างบางรู้สึกถึงนิ้วที่รุกรานเข้ามาภายใน และเริ่มดิ้นรนเมื่อความรู้สึกแปลกๆ แทรกเข้ามา ความรู้สึกที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน
“ฝะฝ่าบาท ทำอะไร” คนที่ไม่ประสีประสาเอ่ยถามเสียงกระท่อนกระแท่น วูบวาบในช่องท้องจนต้องบิดกาย
แต่ฝ่าบาทของแบมแบมไม่ตอบในทันที พระโอษฐ์ได้รูปครอบครองที่ยอดอกบาง ปลายที่ชี้ชันโดนลิ้นร้อนดูดดึงบดขยี้
“ทำเช่นนี้เจ้าจะได้ไม่เจ็บอย่างไรเล่า ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสัมผัสของข้าสิ”
มือบางดันไหล่กว้างของคนที่เงยพักตร์ขึ้นมาคุยด้วย
การกระทำของฝ่าบาททำให้แบมแบมรู้สึกแปลกๆ จนจะบ้าตายแล้ว
“อึก” แบมแบมสะดุ้งกายอีกรอบเมื่อนิ้วของอีกฝ่ายขยับเข้าออกเร็วขึ้นและเพิ่มจำนวนขึ้นด้วย ความรู้สึกที่อยากปลดปล่อยทำให้มือเล็กบีบที่ต้นแขนแกร่งแน่น
เมื่อร่างบางปลดปล่อยออกมาแล้วร่างสูงจึงถอนนิ้วออกมา ขยับกายเล็กน้อยแล้วดันเรียวขาขาวให้ยกแยกห่างกัน
เห็นอย่างนั้นใจแบมแบมก็เต้นรัวด้วยความกลัวระคนสับสนว่าเป็นอย่างนี้ดีแล้วแน่เหรอ
เขากำลังจะเป็นของฟาโรห์อย่างเต็มตัวแล้วสินะ
วรกายสูงใหญ่ทาบทับร่างบางเอาไว้ทั้งตัว ก่อนจะค่อยๆ ส่งความร้อนรุ่มที่ต้องการปลดปล่อยเข้าไปภายในกายแบมแบมอย่างช้าๆ เพื่อให้เจ็บน้อยที่สุด
“โอ๊ย เจ็บ!” เสียงหวานร้องออกมาเมื่อรู้สึกถึงบางสิ่งที่สอดแทรกเข้ามาในกายตน แม้ไม่รุนแรงแต่ก็ทำร่างบางน้ำตาร่วง ถึงจะถูกนิ้วมือเข้าช่วยไว้แต่แรกแล้วแต่ความใหญ่โตที่แทรกเข้ามานั้นเทียบกันไม่ได้เลย
“ไม่เป็นไร เจ็บแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น”
ฝ่าบาทปลอบใจคนที่ร้องไห้ออกมา แบมแบมกัดเม้มริมฝีปากก่อนจะพยักหน้ารับ
ท่าทางน่าสงสารของแบมแบมทำให้ฝ่าบาทก้มลงจูบซับน้ำตาให้ ยังไม่ขยับวรกายเพื่อรอให้ร่างบางคุ้นชินก่อน
“ดีขึ้นหรือไม่”
“มันแน่น
แบมแบมเลิกสะอื้น ความอึดอัดเข้ามาแทนที่ความเจ็บ
“แสดงว่าดีขึ้นแล้ว”
ฝ่าบาทว่าพลางขยับกายพร้อมกับเสียงครางแผ่วของแบมแบม
ฟาโรห์กัดพระทนต์กรอด ก่อนจะส่งตัวเข้าไปภายในกายของร่างบางอย่างช้าๆ ทว่ารุนแรง แบมแบมถูกกระแทกเสียจนร่างสั่นไหวไปหมด จังหวะที่ช้าเนิบนั้นก็ค่อยๆ ถี่รัวเร็วขึ้นและหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ
เสียงครวญครางที่แผ่วเบาเริ่มดังขึ้นตามแรงที่ถาโถมเข้าใส่ มือเล็กดันท้องแกร่งไว้
“ฝ่าบาท..อะ..ช้าๆ หน่อย”
“เจ้าเจ็บงั้นหรือ”
“เปล่าแค่..อา” แค่เสียวจนจะทนไม่ได้แล้วต่างหาก แต่ใครจะกล้าพูดไปตรงๆ แค่นี้ก็อายจะตายแล้ว
“แค่อะไร”
ฝ่าบาทอมยิ้มเมื่อเห็นอีกคนพยายามจะพูดทั้งที่พยายามกลั้นเสียงครางไปด้วย
“ช่างเถอะ..อ๊ะ”
เมเนสจับมือที่ดันท้องเขาไว้มาวางบนบ่าแทน โน้มกายลงไปฝากร่องรอยตรงอกนุ่มเพิ่ม
ทั้งริมฝีปากร้อนที่ดูดดึงผิวกาย ทั้งส่วนล่างที่ขยับไหวตามแรง แบมแบมว่าแบมแบมเริ่มจะรับไม่ไหวแล้ว
มันรู้สึกดีเกินไป
ฝ่าบาททอดพระเนตรริ้วรอยแห่งสัมผัสอันเร่าร้อนหลังผ่านการบดขยี้อย่างไม่ปราณีด้วยความพอพระทัย ร่างงามตอนนี้เรื่อสีแดงเป็นจ้ำเต็มไปหมด
เสียงเนินเนื้อที่ถูกกระแทกกระทั้นดังไปทั่วห้อง ช่องทางบริสุทธิ์นั้นชุ่มชื้นแดงระเรื่อจากการเสียดสีดุดัน
ช่วงเวลานี้นั้นช่างยาวนานจนร่างบางรู้สึกเมื่อยล้า หอบหายใจถี่ มือเรียวปัดป่ายไปตามแผ่นหลังกว้าง แม้สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแต่ก็ยังรู้คิดว่าไม่ควรจิกเล็บลงบนแผ่นหลังกว้างนี้ ใครจะกล้าฝากรอยเล็บไว้ แม้ฝ่าบาทจะฝากรอยไว้ทั่วตัวเขาแล้วก็เถอะ
ร่างบางบิดส่ายอย่างกระวนกระวายเมื่อจังหวะสุดท้ายกำลังเดินทางมาถึง เมเนสเร่งจังหวะถี่เรียกเสียงร้องจากอีกคนอย่างห้ามไม่อยู่
ร่างสูงกระตุกกายอีกไม่กี่ครั้งก็ปลดปล่อยเข้าไปในกายของคนใต้ร่าง พร้อมกับที่ร่างบางก็ปลดปล่อยออกมาอีกครั้งเช่นกัน
เมเนสหอบหายใจค้ำกายอยู่เหนือร่างแบมแบม
“ข้าจะให้เจ้าพักสักหน่อย”
“หือ..สักหน่อย?” แบมแบมยังปรับลมหายใจกลับมาเป็นปกติไม่ได้ เหนื่อยจะขาดใจ
อย่าให้เป็นอย่างที่เขาคิด สักหน่อยนี่หน่อยอะไร ต้องนอนแล้ว นอนได้แล้ว เหนื่อยจะตายแล้ว
“ข้ารอมาตั้งนาน เจ้าคิดว่าข้าจะยอมกอดเจ้าแค่ครั้งเดียวหรือ”
ฟาโรห์ไม่ตรัสเปล่าแต่แสดงออกด้วยการกระทำ ก้มลงจูบไล่มาตั้งแต่ขมับที่ชื้นเหงื่อ แก้มใสที่แดงปลั่ง ซอกคอที่เต็มไปด้วยรอยจ้ำแดง จนถึงหัวไหล่มน
“แต่หม่อมฉันเหนื่อย เมื่อยตัวไปหมดแล้วนะพ่ะย่ะค่ะ”
แบมแบมไม่คิดว่าการมีเซ็กส์จะเหนื่อยขนาดนี้ แม้มันจะรู้สึกมีความสุขดีก็เถอะ
“วันๆ เจ้าก็ไม่ได้ทำอะไรนี่ ไม่ไหวก็ตื่นสายได้”
ไม่เคยคิดจะเห็นใจกันเลยหรือฝ่าบาท!  
แต่แม้แบมแบมจะไม่ยินยอม ไม่นานเสียงหอบหายใจก็ดังขึ้นในห้องอีกครั้ง และอีกครั้งตลอดจนเกือบรุ่งเช้า





วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2562

NC ทาสรักปิศาจร้าย Bnior บทนำ








มือเรียวทั้งบีบทั้งดันให้อีกฝ่ายปล่อยเมื่อใบหน้าหล่อเหลาซบลงที่ซอกคอตน รู้สึกกลัวเมื่อลิ้นร้อนไล้ชิมเนื้อแล้วกัดเบาๆ
            ไม่นะครับนาย ไม่” 
            จินยองยังละล่ำละลักวอนขอ มือที่บีบไหล่กว้างลดลงมาห้ามมือที่สอดเข้ามาในเสื้อ แต่มือของอีกคนกลับไล่ขึ้นไปบดขยี้อกบางอย่างแรง
ฮึก ไม่เอาร่างบางหวาดกลัวเมื่อสู้ไม่ได้ ร่างกายถูกรุกรานเอาแต่ใจไม่หยุด เสื้อถูกเลิกขึ้นอย่างรวดเร็ว
อย่าดิ้นน่าเสียงทุ้มเอ่ยแล้วสนใจกับเรือนร่างเนียนละเอียดต่อ กดจูบลงบนไหล่ลาดเนียนนุ่ม ถอดเสื้อออกจากร่างบาง
หยาดน้ำตาซึมจากดวงตาคู่สวย จินยองกลั้นสะอื้นจนร่างสั่นไหวด้วยความกลัว พยายามส่ายหน้าปฏิเสธ ส่งสายตาอ้อนวอน แต่คนตรงหน้ากลับไม่สนใจ
เขาแค่มาแทนป้าเท่านั้นทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย
ร่างบางถูกอุ้มมาโยนลงบนเตียงก่อนอีกฝ่ายจะตามลงมาทาบทับ ดันกายเข้ามาแทรกระหว่างขาเรียวทั้งสองจนจินยองขยับหนีไม่ทันด้วยซ้ำ
“นายอย่าทำแบบนี้เลยนะครับ ผมขอร้อง
น้ำตาของจินยองไม่มีค่าอะไรเลยตอนนี้ ร่างสูงสนใจแค่จะปลดปล่อยความต้องการเท่านั้น
จมูกโด่งซุกไซ้หาความหอมหวานจากร่างบาง กดตรึงแขนทั้งสองข้างของจินยองลงกับเตียงไม่ให้ดิ้นหนี
ริมฝีปากร้อนขบเม้มใบหูนิ่มแล้วไล้เลียเบาๆ จนร่างบางขนลุกไปทั้งตัว
จินยองครางฮือเมื่อถูกมือเรียวลากไล้ไปทั่วร่าง ลงเน้นน้ำหนักมือจนเจ็บ
ใบหน้าหวานเชิดขึ้น กัดริมฝีปากแน่นเมื่อใบหน้าหล่อเหลาลดต่ำลงใช้ริมฝีปากครอบครองอกบาง จูบย้ำขบเม้มแรงๆ สร้างรอย
จินยองร้องไห้ทั้งที่เผลอครางออกมาอย่างไม่รู้ตัวเมื่อร่างกายถูกกระตุ้นไปทุกพื้นที่ จนที่สุดก็ต้องจำยอมให้อีกฝ่ายเอาแต่ใจ
มือเล็กบีบไหล่กว้างอย่างแรง เอียงหน้าหลบลมหายใจอุ่นที่เป่ารดอยู่ข้างหู กลัวแต่ทำอะไรไม่ได้
ร่างบางถอนหายใจ โล่งอกเมื่อแขนที่ถูกตรึงเป็นอิสระและคนด้านบนขยับออกไป
อย่านะครับความโล่งอกเมื่อครู่หายวับไปอย่างรวดเร็ว จินยองพยายามขืนตัวไม่ให้กางเกงทั้งชั้นนอกและชั้นในถูกถอดออกไป แต่มีหรือจะสู้แรงคนที่ตัวโตกว่าได้
เขาเผลอคิดไปว่าคุณอิมจะยอมปล่อยเขาไป
เมื่อช่วงล่างเปลือยเปล่าอวดสายตาคมไปแล้ว ขาทั้งสองข้างก็ถูกจับแยกออกจากกันกว้างกว่าเดิม
ตาคมมองสำรวจเรือนร่างเนียนละเอียดที่ถูกแต่งแต้มรอยแดงตัดกับผิวขาวจัดอย่างพอใจ เสียงร้องไห้ครางฮือของอีกฝ่ายนั้นปลุกเร้าอารมณ์ความต้องการเขาได้อย่างดี ดีมากๆ ด้วย ดีจนทนไม่ได้อีกต่อไปแม้แต่นาทีเดียว
ร่างสูงสอดแก่นกายที่แข็งขืนเต็มที่เข้าไปในช่องทางด้านหลัง เอวบางถูกจับตรึงไว้แน่นไม่ให้หนีไปไหนได้
อึก เจ็บ!จินยองสะดุ้งสุดตัว พยายามถดกายหนีแต่ถูกกักไว้ทั้งตัว
มือเล็กจิกลงบนที่นอนเมื่อส่วนแข็งขืนนั้นดันเข้ามาจนสุดในคราวเดียวทั้งที่ยังไม่เปิดทางให้เคยชิน ร่างบางเจ็บปวดจนน้ำตาร่วง หลับตาแน่น
เสียงร้องที่เจ็บแทบขาดใจดังขึ้นพร้อมมือเล็กที่ทุบอกกว้างบอกให้รู้ว่าจินยองทนไม่ไหว แต่แทนที่คนด้านบนจะเห็นใจกลับแยกขาเรียวออกกว้างขึ้นแล้วขยับสะโพกเข้าออกอย่างหนักหน่วงตั้งแต่แรก
ร่างเล็กสะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสาร ร่างกายสั่นคลอนไปตามแรงที่ถูกสอดกายเข้ามา สะโพกกลมถูกยกขึ้นสูงอีกเพื่อให้รับร่างสูงได้ลึกขึ้น
อย่าเกร็งเสียงทุ้มคำรามต่ำเมื่อช่องทางร้อนผ่าวรัดเขาจนปวดหนึบไปหมด
แจบอมถอนกายออกอย่างแรงจนร่างบางครางอือ จับพลิกให้นอนคว่ำแล้วยกสะโพกกลมขึ้นสูงสอดแก่นกายเข้าไปลึกทีเดียว
จินยองครางสะอื้น หยาดน้ำตาอาบแก้ม แขนเรียวค้ำลงกับเตียง
ใบหน้าหวานซุกซบลงกับหมอนยามร่างสูงแทรกกายเข้าหาอย่างหนักแน่นในทุกจังหวะ สองมือกำแน่น ไม่ร้องขออะไรอีกแล้ว เจ็บจนไม่อยากจะอ้อนวอนอะไรอีก
ร่างเล็กที่สั่นคลอนจากแรงที่ส่งมาหนักๆ จากทางด้านหลังครางยาวในจังหวะสุดท้ายที่ร่างสูงปล่อยหยาดน้ำขุ่นเข้ามาในร่างกายอย่างแรงทุกหยาดหยด
เมื่อร่างสูงถอนกายออกไป ร่างบางก็ทรุดลงกับเตียง น้ำสีขุ่นปนสีแดงหยดลงตามขาหล่นบนที่นอน
จินยองคิดว่ามันจะจบลงแค่นี้ แค่ครั้งนี้ แต่ความหวังเขาก็พังทลายลงเมื่อถูกจับให้ลุกขึ้นนั่งแล้วรั้งมานั่งตัก
“อ๊ะ!” ร่างบางเผลอจิกลงบนบ่ากว้างแน่นเมื่อถูกส่วนแข็งขืนนั้นสอดเข้ามาในกายอีกครั้ง มือหนาจับเอวบางแน่นแล้วกดลงอย่างแรงจนจินยองจุกแน่นไปหมด
“ฮือ..พอแล้วครับ มันเจ็บ” จินยองสะอึกสะอื้น โถมตัวซบไปกับอกกว้าง จับต้นแขนแกร่งไว้แน่น
“แต่ฉันยังไม่พอ”
ความต้องการที่มีมันมากมายเกินกว่าจะปลดปล่อยได้จนพอในครั้งเดียว
แขนแกร่งโอบรัดร่างบางไว้แน่นข้างหนึ่ง อีกมือเค้นคลึงเอวบาง  ริมฝีปากไล้ไปตามผิวเนียนนุ่ม และกัดจนช้ำเลือด จินยองจิกแผ่นหลังกว้างระบายความเจ็บ
จินยองอยากจะบอกเหลือเกินว่าคุณอิมใจร้าย อยากจะถามเหลือเกินว่าทำกับเขาแบบนี้ทำไม
ร่างบางกัดริมฝีปากแน่นเมื่อส่วนแข็งขืนนั้นเข้ามาลึกกว่าตอนนอนเสียอีก แรงกระแทกที่สวนขึ้นมานั้นสร้างความเจ็บปวดมากกว่าความรู้สึกอื่นๆ ที่แทรกเข้ามา
หยดน้ำตาหล่นลงบนบ่ากว้าง จินยองไม่รู้ว่ามันจะจบลงเมื่อไหร่ แต่ภาวนาให้มันจบลงเร็วๆ





วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

NC Jackjae สิเน่หาแสนกล Chapter 22









ร่างสูงเอ่ยพลางก้มลงจูบตรงซอกคอขาว ขบเม้มดูดดึงแรงๆ ตีตราประทับเอาไว้ พร้อมกันนั้นมือใหญ่ก็บีบเค้นเคล้าคลึงร่างขาวเนียนนุ่มนิ่มอย่างไม่เบาแรง ยองแจกัดริมฝีปากแน่น แม้จะเจ็บก็ไม่บอกออกไป
“อื้อ!” มือเรียวยกขึ้นปิดปากไม่ให้ครางออกมาเมื่อริมฝีปากอีกฝ่ายไล่ลงจากต้นคอลงไปยังหน้าอก  ทั้งขบกัดและดูดเม้มจนผิวขาวๆ แดงก่ำ
ริมฝีปากร้อนรุ่มนั้นซุกไซ้ไปทั่วเรือนกายนุ่มนิ่ม และจับสังเกตได้ว่าร่างกายนี้นั้นสั่นน้อยๆ พอรู้ว่าส่วนไหนบ้างที่ไวต่อสัมผัส ทั้งเรียวลิ้นและริมฝีปากต่างก็ทรมานอีกฝ่ายเล่นด้วยการโลมเลียขบเม้มเบาบ้างแรงบ้างสลับกันไป
“อึ่ก”
ยองแจบิดกายเร่าเบี่ยงหนีมือร้อนที่บีบเค้นและขยำเนินอกตนจนเจ็บ แม้จะเจ็บแต่ก็มีความรู้สึกแปลกๆ ปะปนมาด้วย
แจ็คสันไม่อ่อนโยนกับเขาจริงๆ  อยากจะทำอะไรก็ทำ
“คุณนี่ดื้อจริง ถ้าอยากจะทนนักก็ทนให้ได้ตลอดแล้วกัน”
นัยน์ตาคมมองเรือนร่างขาวเนียนที่มีร่องรอยสีแดงแต่งแต้ม ยองแจขาวมาก ขาวเสียจนแค่ลงแรงจับนิดหน่อยผิวก็แดงแล้ว แค่จูบประทับรอยก็ขึ้นสีชัด บอบบางกว่าที่คิดไว้หลายเท่านัก
 แจ็คสันทั้งขุ่นเคืองและอยากเอาชนะ อยากรู้ว่ายองแจจะทนไปได้ถึงขั้นไหนกัน
“มันเรื่องของฉัน”
ริมฝีปากอิ่มนั้นถูกเจ้าตัวขบกัดจนช้ำ นัยน์ตาเรียวที่ฉ่ำน้ำมองตรงมาอย่างไม่กลัว เก็บซ่อนความตื่นตระหนกไว้เมื่อร่างกำยำกดทับเสียดสีกับร่างกายตน
ยองแจรู้ว่าอีกฝ่ายจงใจใช้ความแข็งแกร่งเน้นสัมผัสลงบนตัวเขา
“ได้ คุณเลือกเองนะ” ร่างสูงกดยิ้มร้าย ก้มลงจูบและขบเม้มริมฝีปากอิ่มแรงๆ
ยองแจขัดขืนจึงถูกเขาจับคางไว้แน่น บังคับให้เชิดหน้ารับจูบ ริมฝีปากร้อนบดขยี้เรียวปากนุ่มให้เปิดออกได้ในที่สุด ก่อนส่งลิ้นร้อนแทรกเข้าไปกวาดหาความหวานภายใน
“อื้อ!” ยองแจครางในลำคอประท้วงเพราะจูบที่รุนแรงเอาแต่ใจนั้นยาวนานจนเกือบหายใจไม่ออก
เมื่อถอนริมฝีปากออกมาแล้วแจ็คสันก็ไล้นิ้วโป้งผ่านริมฝีปากแดงช้ำ ยองแจอ้าปากจะกัดนิ้วนั่นด้วยความโมโห
“พยศจริงนะ” แจ็คสันชักนิ้วกลับมาได้ทัน ยองแจเงื้อมือขึ้นจะตบใบหน้าหล่อเหลานั่นสักทีแต่แจ็คสันไวกว่า ยึดมือเขาไว้ได้
ร่างสูงขบกัดนิ้วเรียวเบาๆ ยองแจพยายามดึงมือกลับแต่ไม่สำเร็จ ได้แต่มองอีกฝ่ายดูดนิ้วตนอย่างยั่วเย้าเอาแต่ใจ ปลายนิ้วไวต่อความรู้สึก ทุกครั้งที่ถูกดูดเค้น ร่างกายก็สั่นสะท้านหวิวไหวไปหมด
“พอได้แล้ว!” ยองแจตวาดออกไปทั้งที่เสียงสั่นพร่า อับอายเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของแจ็คสัน
“โธ่..จะโกรธอะไรขนาดนั้น ถ้าตาคุณเป็นมีดผมคงเลือดโชกไปแล้ว”
“ฉันเกลียดคุณ”
“พูดได้พูดไป”
ร่างสูงจับคนใต้ร่างพลิกคว่ำให้อยู่ในท่าคลาน แผ่นหลังนวลเนียนไร้ตำหนิปรากฎต่อสายตา ส่วนโค้งเว้าเย้ายวนใจนั่นปลุกความต้องการของเขาได้มากกว่าเดิม อดไม่ได้ที่จะก้มลงจูบที่แผ่นหลังนั่น
ยองแจกำมือแน่นยามรู้สึกถึงเรียวลิ้นที่เลียไล้ไปตามผิวเนียนละเอียด ลากผ่านไปทุกจุดอ่อนไหวอย่างชำนาญ
เมื่อคนใต้ร่างคิดจะขยับหนี แจ็คสันก็ยื่นมือโอบไว้แน่นหนาตรงหน้าอกนุ่มพอดี
ยองแจสะดุ้ง กัดริมฝีปากแน่นยามที่มือทั้งสองของแจ็คสันออกแรงบีบคลึงอกตนแรงบ้างเบาบ้างสลับกัน อารมณ์ปรารถนาเริ่มก่อตัวอย่างไม่น่ายินดี
เสียงหอบหายใจนั่นทำให้แจ็คสันแน่ใจว่าความนุ่มละมุนที่สัมผัสอยู่คือจุดอ่อนไหวของยองแจอีกจุดแน่ๆ
เมื่อเล่นกับอกนิ่มจนพอใจ มือใหญ่ก็ลูบไล้ลงต่ำผ่านท้องน้อย แล้วสะกิดที่ส่วนปลายของส่วนอ่อนไหวเบาๆ ยองแจเกร็งตัวทันที
ร่างสูงก้มลงจูบที่ลำคอขาวเนียน ซุกไซ้ขบเม้ม ปลุกอารมณ์อีกฝ่ายไปพร้อมกับทิ้งร่องรอยความเป็นเจ้าของ
ร่างกายยองแจเริ่มผ่อนคลายลงแต่ลมหายใจกลับติดขัด ไม่เข้าใจว่าแจ็คสันจะกลั่นแกล้งตนทำไมนักหนา ทำให้มันจบๆ แล้วยุติเรื่องนี้เร็วๆ ไม่ได้หรือไง
นิ้วเรียวแตะไล้เอวคอดแล้วไล่ต่ำลงมาที่สะโพกผายได้รูป รั้งสะโพกขึ้นสูงแล้วแหวกเนินเนื้อด้านหลังนั้นออกกว้าง จากนั้นจับส่วนแข็งขืนของตนสอดใส่เข้าไปโดยไม่เบิกทางก่อนแม้แต่นิดเดียว
เพียงแค่อีกฝ่ายแทรกกายรุกล้ำเข้ามาได้เพียงส่วนหัวยองแจก็กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เจ็บเหมือนร่างกายจะฉีกออก เขากัดหมอนใบโตกลั้นเสียงร้องเอาไว้ มือกำผ้าปูที่นอนสีเข้มไว้แน่น หยาดน้ำใสเอ่อคลอนัยน์ตาทั้งสองข้าง แต่ฝืนกลั้นไว้ไม่ให้หยาดหยด
“ยองแจ! นี่คุณไม่เคยมาก่อนเหรอ”
แจ็คสันก็รู้ดีว่าเขาได้ครอบครองยองแจก่อนใคร อดโมโหอีกฝ่ายไม่ได้ที่ดื้อนัก
“ฮึกจะเคยหรือเปล่าแล้วมันสำคัญอะไรเล่า”
“คุณนี่มัน” แจ็คสันไม่รู้จะต่อว่าอีกฝ่ายยังไงดี แต่จะให้เลิกตอนนี้เขาก็ทำไม่ได้หรอกนะ
อึดอัด”
ยองแจข่มความเจ็บเอาไว้ เอ่ยออกมาเสียงเบาหวิว ซุกหน้ากับหมอนนิ่ม ทำใจรับความเจ็บปวดที่อาจจะมากกว่านี้
ร่างสูงถอนกายออกมาก่อน เอื้อมมือเปิดลิ้นชักโต๊ะข้างเตียงแล้วหยิบเจลหล่อลื่นกับถุงยางออกมา
ร่างบางรู้ว่าอีกฝ่ายผละออกไป ใจก็แอบคิดไปว่าแจ็คสันอาจจะหยุดแค่นี้ แต่ฝันหวานได้ไม่ทันไรก็ต้องสะดุ้งเมื่อรู้สึกเย็นที่ช่องทางด้านหลัง
“อะ
ยองแจกัดหมอนอีกรอบเมื่อนิ้วยาวสอดลึกเข้ามาภายใน หมุนวนราวกับจะทาเจลเย็นๆ นั่นให้ทั่ว
แจ็คสันต้องการให้ยองแจเปิดรับเขาได้ทั้งหมดต่างหาก ไม่ได้หวังให้ยองแจเจ็บน้อยลง
“อื้อ!” ร่างบางกระตุกวูบ รู้สึกวาบหวามไปทั้งตัวเมื่อปลายนิ้วเรียวนั่นสะกิดโดนบางจุดภายใน
คนทำก็สังเกตเห็นท่าทางนั้นเช่นกัน แต่เพื่อความแน่ใจจึงย้ำไปอีกหลายครั้ง ร่างบางสั่นระริกทั้งที่ไม่ส่งเสียงครางออกมาสักคำ
เมื่อขยับนิ้วเข้าออกรัวๆ ให้ช่องทางคับแน่นนั้นคุ้นเคยดีแล้ว ร่างสูงก็เปลี่ยนจากนิ้วเป็นแก่นกายที่สวมถุงยางไว้เรียบร้อย
“อึ๊ก..
ยองแจจุกบริเวณท้องน้อยเมื่ออีกฝ่ายดันกายเข้ามาในคราวเดียวจนสุด ทั้งเจ็บและจุกจนน้ำตาซึม
แจ็คสันหวังจะให้ยองแจส่งเสียงครางออกมาให้ได้จึงจงใจขยับกายช้าๆ ทว่าหนักแน่น เข้าออกสุดจนส่วนปลายชนเข้ากับจุดกระสันภายใน เมื่อเจอก็ส่งกายขยี้หนักๆ แทบไม่ชักออก
“อ่า..อะ..เอา..ออก...อะ”
ยองแจขอร้องออกมาเสียงสั่นเครือ เสียวไปจนถึงปลายเท้า ขาสั่นไปหมด
“ถ้าครางหวานๆ ให้ฟังบ้างผมอาจจะทรมานคุณให้น้อยกว่านี้”
แจ็คสันจับเอวบางไว้แน่นไม่ให้ยองแจขืนตัวหนี กระแทกกายถี่ให้ชนจุดกระสันซ้ำๆ จนในที่สุดยองแจก็ทนไม่ไหว
“อ๊า!
“พอครางเต็มเสียงแล้วเสียงคุณโคตรเซ็กส์เลยนะ”
และเสียงหวานๆ นั่นก็ปลุกเร้าความต้องการของแจ็คสันได้มากขึ้นด้วย
“ไม่..ไม่เอา”
“ปากบอกไม่แต่ร่างกายคุณตรงข้ามนะ”
แจ็คสันขบกรามแน่นเพราะอีกฝ่ายตอดรัดเขาจนปวดหนึบ ยองแจตั้งใจจะให้เขาเสร็จตั้งแต่ยังไม่ทันทำอะไรเลยหรือไง
“ออก..อะ..ออกไป..ฮึ่ก..ได้โปรด”
ยองแจยอมแพ้อีกครั้งก็ได้ โดนแกล้งแบบนี้มันทรมานเกินไป
“ผมชอบเสียงขอร้องเหมือนจะขาดใจของคุณจัง”
ร่างสูงเลิกแกล้งแต่เปลี่ยนจังหวะขยับจากเนิบช้าเป็นรุนแรงและหนักหน่วงขึ้น
“อ๊ะอ๊า”
แม้อีกฝ่ายจะรุนแรงแต่ความเจ็บจากตอนแรกนั้นค่อยๆ หายไปแล้ว มีความรู้สึกบางอย่างเข้ามาแทนที่ ความรู้สึกที่ยองแจไม่อยากจะยอมรับ
รู้สึกดี
ร่างบางหอบหายใจและบิดเกร็งไปตามจังหวะการขยับตัวของอีกฝ่าย ร่างกายทรยศต่อสมอง ให้ความร่วมมือสอดคล้องไปกับทุกจังหวะ
แจ็คสันโอบเอวบางไว้ ชักรูดส่วนอ่อนไหวของอีกฝ่ายเร็วๆ ให้ปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน
ความเร็วสะโพกที่ซอยถี่ลดลงจนเหลือเพียงกระตุกแรงๆ แล้วถอนกายออก เมื่อเป็นอิสระร่างบางก็ทิ้งตัวลงนอน หอบหายใจหนัก ขณะที่ร่างสูงถอดถุงยางโยนทิ้ง
“เหนื่อยแล้วเหรอ ถุงยางผมยังเหลืออยู่นะ”
“คุณมันบ้า..” ยองแจชักหวั่นใจ น้ำเสียงอีกฝ่ายไม่เจือความล้อเล่นเลย
“อยากนอนก็นอนไป ผมกอดคุณต่อได้”
ลมหายใจยองแจยังไม่ปรับมาเป็นปกติด้วยซ้ำ แจ็คสันก็ทิ้งกายลงนอนซ้อนทางด้านหลังเขาแล้วจับขาเรียวให้ยกขึ้นข้างหนึ่ง ก่อนจะสอดใส่แก่นกายเข้าไปในช่องทางอ่อนนุ่มอีกครั้ง
เพราะหลั่งไปแล้วรอบหนึ่ง ดูเหมือนครั้งนี้จะเข้าได้ง่ายขึ้น
“ฉันเหนื่อยแล้ว” ยองแจอุทธรณ์แต่แจ็คสันไม่รับฟัง เขาเริ่มขยับสะโพกอีกครั้ง
ยองแจซบหน้ากับแขนตนเอง ทำอะไรไม่ได้นอกจากยินยอมให้อีกคนเอาแต่ใจต่อไป พยายามคิดไว้ว่าพอพรุ่งนี้ทุกอย่างมันก็จบลงแล้ว