วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2562

NC คำสาปรักฟาโรห์ ตอนที่ 9 Markbam






            ร่างบางถูกเล้าโลมด้วยมือและปากจากอีกฝ่าย ริมฝีปากอิ่มถูกครอบครองด้วยริมฝีปากอุ่นร้อนอีกครา อกบางก็ได้รับความเอ็นดูอยู่ไม่น้อย ถูกฝ่ามือใหญ่กอบกุมเคล้าคลึงอย่างทะนุถนอมจนเรียกเสียงครวญครางด้วยความเสียวซ่านแผ่วเบา
            “ครั้งแรกที่ต้องเสียพรหมจรรย์ เจ้ารู้ใช่ไหมว่ามันต้องเจ็บ”
            เมเนสกระซิบเสียงแหบพร่า เมื่อได้แตะต้องเรือนร่างขาวเนียนก็ทำให้ร่างกายร้อนรุ่ม
พระองค์รู้ดีว่าคนที่อยู่ใต้ร่างตอนนี้ต้องผ่านความเจ็บปวดในครั้งแรกเพียงใด แต่พระองค์ก็ตั้งพระทัยว่าจะพยายามอ่อนโยนกับแบมแบมให้มากที่สุด แต่ไม่รู้จะทำตามที่ตั้งพระทัยได้นานสักแค่ไหนถ้าแบมแบมเกิดยั่วยวนพระองค์ขึ้นมา
“เจ็บมากไหมพ่ะย่ะค่ะ”
น้ำเสียงออดอ้อนยิ่งทำให้ฟาโรห์แทบอดทนไม่ไหว แต่ก็ต้องตั้งสติไม่บุ่มบ่ามทำอะไรรุนแรงลงไปเพราะไม่อยากได้ชื่อว่าข่มเหงแบมแบม
แบมแบมมองพระพักตร์งดงามที่กำลังอดทนของคนตรงหน้า ร่างกายแข็งแรงทาบทับเขาอยู่
“พระองค์เป็นอะไร”
“ข้ากำลังหักห้ามใจไม่ให้ทำอะไรรุนแรงอยู่”
ฟาโรห์กัดพระทนต์แน่น ความอดทนของพระองค์ใกล้ถึงขีดจำกัด
….” แบมแบมไม่คิดว่าฟาโรห์จะใส่พระทัยกับคำพูดเมื่อวานของเขาขนาดนี้
เขาไม่อยากให้พระองค์บังคับข่มเหงน้ำใจกัน พระองค์ยังจำได้
ในเมื่อฝ่าบาทใส่พระทัยในความต้องการของเขา เขาก็ควรจะทำตามที่ตกลงกับพระองค์ไว้
“ทำตามที่ทรงต้องการเถอะพ่ะย่ะค่ะ” แบมแบมกระซิบแผ่วเบาอย่างเขินอาย  ซุกหน้ากับพระอุระกว้าง
ท่าทางของแบมแบมทำให้องค์ฟาโรห์แย้มสรวลน้อยๆ แววพระเนตรอ่อนโยนฉายชัด ทอดพระเนตรไปยังใบหน้าหวานของอีกคน
“ข้าบอกแล้วว่าจะถนอมเจ้า”
“อื้อ”
เมเนสกระซิบก่อนจะมอบจูบที่ทำให้แบมแบมร้องครางออกมาเมื่อมันดูดดื่มหวานล้ำลึกเสียจนพัดพาความคิดทุกอย่างไปจากเขาเสียหมด
ร่างสูงค่อยๆ ลิ้มชิมซอกคอขาวผ่อง ทิ้งร่องรอยตีตราเอาไว้อย่างชัดเจน แบมแบมร้องออกมาเบาๆ เมื่อถูกฟันคมและเขี้ยวเล็กๆ ของอีกคนเน้นย้ำรอย
อกบางถูกเค้นคลึงหนักมือขึ้น แล้วลากไล้ไล่ไปตามเอวบาง ก่อนไปหยุดที่สะโพก แบมแบมสะดุ้งเมื่อนิ้วของอีกฝ่ายกดทาบตรงปากทางคับแคบ
ร่างบางรู้สึกถึงนิ้วที่รุกรานเข้ามาภายใน และเริ่มดิ้นรนเมื่อความรู้สึกแปลกๆ แทรกเข้ามา ความรู้สึกที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน
“ฝะฝ่าบาท ทำอะไร” คนที่ไม่ประสีประสาเอ่ยถามเสียงกระท่อนกระแท่น วูบวาบในช่องท้องจนต้องบิดกาย
แต่ฝ่าบาทของแบมแบมไม่ตอบในทันที พระโอษฐ์ได้รูปครอบครองที่ยอดอกบาง ปลายที่ชี้ชันโดนลิ้นร้อนดูดดึงบดขยี้
“ทำเช่นนี้เจ้าจะได้ไม่เจ็บอย่างไรเล่า ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสัมผัสของข้าสิ”
มือบางดันไหล่กว้างของคนที่เงยพักตร์ขึ้นมาคุยด้วย
การกระทำของฝ่าบาททำให้แบมแบมรู้สึกแปลกๆ จนจะบ้าตายแล้ว
“อึก” แบมแบมสะดุ้งกายอีกรอบเมื่อนิ้วของอีกฝ่ายขยับเข้าออกเร็วขึ้นและเพิ่มจำนวนขึ้นด้วย ความรู้สึกที่อยากปลดปล่อยทำให้มือเล็กบีบที่ต้นแขนแกร่งแน่น
เมื่อร่างบางปลดปล่อยออกมาแล้วร่างสูงจึงถอนนิ้วออกมา ขยับกายเล็กน้อยแล้วดันเรียวขาขาวให้ยกแยกห่างกัน
เห็นอย่างนั้นใจแบมแบมก็เต้นรัวด้วยความกลัวระคนสับสนว่าเป็นอย่างนี้ดีแล้วแน่เหรอ
เขากำลังจะเป็นของฟาโรห์อย่างเต็มตัวแล้วสินะ
วรกายสูงใหญ่ทาบทับร่างบางเอาไว้ทั้งตัว ก่อนจะค่อยๆ ส่งความร้อนรุ่มที่ต้องการปลดปล่อยเข้าไปภายในกายแบมแบมอย่างช้าๆ เพื่อให้เจ็บน้อยที่สุด
“โอ๊ย เจ็บ!” เสียงหวานร้องออกมาเมื่อรู้สึกถึงบางสิ่งที่สอดแทรกเข้ามาในกายตน แม้ไม่รุนแรงแต่ก็ทำร่างบางน้ำตาร่วง ถึงจะถูกนิ้วมือเข้าช่วยไว้แต่แรกแล้วแต่ความใหญ่โตที่แทรกเข้ามานั้นเทียบกันไม่ได้เลย
“ไม่เป็นไร เจ็บแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น”
ฝ่าบาทปลอบใจคนที่ร้องไห้ออกมา แบมแบมกัดเม้มริมฝีปากก่อนจะพยักหน้ารับ
ท่าทางน่าสงสารของแบมแบมทำให้ฝ่าบาทก้มลงจูบซับน้ำตาให้ ยังไม่ขยับวรกายเพื่อรอให้ร่างบางคุ้นชินก่อน
“ดีขึ้นหรือไม่”
“มันแน่น
แบมแบมเลิกสะอื้น ความอึดอัดเข้ามาแทนที่ความเจ็บ
“แสดงว่าดีขึ้นแล้ว”
ฝ่าบาทว่าพลางขยับกายพร้อมกับเสียงครางแผ่วของแบมแบม
ฟาโรห์กัดพระทนต์กรอด ก่อนจะส่งตัวเข้าไปภายในกายของร่างบางอย่างช้าๆ ทว่ารุนแรง แบมแบมถูกกระแทกเสียจนร่างสั่นไหวไปหมด จังหวะที่ช้าเนิบนั้นก็ค่อยๆ ถี่รัวเร็วขึ้นและหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ
เสียงครวญครางที่แผ่วเบาเริ่มดังขึ้นตามแรงที่ถาโถมเข้าใส่ มือเล็กดันท้องแกร่งไว้
“ฝ่าบาท..อะ..ช้าๆ หน่อย”
“เจ้าเจ็บงั้นหรือ”
“เปล่าแค่..อา” แค่เสียวจนจะทนไม่ได้แล้วต่างหาก แต่ใครจะกล้าพูดไปตรงๆ แค่นี้ก็อายจะตายแล้ว
“แค่อะไร”
ฝ่าบาทอมยิ้มเมื่อเห็นอีกคนพยายามจะพูดทั้งที่พยายามกลั้นเสียงครางไปด้วย
“ช่างเถอะ..อ๊ะ”
เมเนสจับมือที่ดันท้องเขาไว้มาวางบนบ่าแทน โน้มกายลงไปฝากร่องรอยตรงอกนุ่มเพิ่ม
ทั้งริมฝีปากร้อนที่ดูดดึงผิวกาย ทั้งส่วนล่างที่ขยับไหวตามแรง แบมแบมว่าแบมแบมเริ่มจะรับไม่ไหวแล้ว
มันรู้สึกดีเกินไป
ฝ่าบาททอดพระเนตรริ้วรอยแห่งสัมผัสอันเร่าร้อนหลังผ่านการบดขยี้อย่างไม่ปราณีด้วยความพอพระทัย ร่างงามตอนนี้เรื่อสีแดงเป็นจ้ำเต็มไปหมด
เสียงเนินเนื้อที่ถูกกระแทกกระทั้นดังไปทั่วห้อง ช่องทางบริสุทธิ์นั้นชุ่มชื้นแดงระเรื่อจากการเสียดสีดุดัน
ช่วงเวลานี้นั้นช่างยาวนานจนร่างบางรู้สึกเมื่อยล้า หอบหายใจถี่ มือเรียวปัดป่ายไปตามแผ่นหลังกว้าง แม้สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแต่ก็ยังรู้คิดว่าไม่ควรจิกเล็บลงบนแผ่นหลังกว้างนี้ ใครจะกล้าฝากรอยเล็บไว้ แม้ฝ่าบาทจะฝากรอยไว้ทั่วตัวเขาแล้วก็เถอะ
ร่างบางบิดส่ายอย่างกระวนกระวายเมื่อจังหวะสุดท้ายกำลังเดินทางมาถึง เมเนสเร่งจังหวะถี่เรียกเสียงร้องจากอีกคนอย่างห้ามไม่อยู่
ร่างสูงกระตุกกายอีกไม่กี่ครั้งก็ปลดปล่อยเข้าไปในกายของคนใต้ร่าง พร้อมกับที่ร่างบางก็ปลดปล่อยออกมาอีกครั้งเช่นกัน
เมเนสหอบหายใจค้ำกายอยู่เหนือร่างแบมแบม
“ข้าจะให้เจ้าพักสักหน่อย”
“หือ..สักหน่อย?” แบมแบมยังปรับลมหายใจกลับมาเป็นปกติไม่ได้ เหนื่อยจะขาดใจ
อย่าให้เป็นอย่างที่เขาคิด สักหน่อยนี่หน่อยอะไร ต้องนอนแล้ว นอนได้แล้ว เหนื่อยจะตายแล้ว
“ข้ารอมาตั้งนาน เจ้าคิดว่าข้าจะยอมกอดเจ้าแค่ครั้งเดียวหรือ”
ฟาโรห์ไม่ตรัสเปล่าแต่แสดงออกด้วยการกระทำ ก้มลงจูบไล่มาตั้งแต่ขมับที่ชื้นเหงื่อ แก้มใสที่แดงปลั่ง ซอกคอที่เต็มไปด้วยรอยจ้ำแดง จนถึงหัวไหล่มน
“แต่หม่อมฉันเหนื่อย เมื่อยตัวไปหมดแล้วนะพ่ะย่ะค่ะ”
แบมแบมไม่คิดว่าการมีเซ็กส์จะเหนื่อยขนาดนี้ แม้มันจะรู้สึกมีความสุขดีก็เถอะ
“วันๆ เจ้าก็ไม่ได้ทำอะไรนี่ ไม่ไหวก็ตื่นสายได้”
ไม่เคยคิดจะเห็นใจกันเลยหรือฝ่าบาท!  
แต่แม้แบมแบมจะไม่ยินยอม ไม่นานเสียงหอบหายใจก็ดังขึ้นในห้องอีกครั้ง และอีกครั้งตลอดจนเกือบรุ่งเช้า